วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ความหมายของเลขบัตรประจำตัวประชาชน


        ประเทศไทยเราเริ่มกำหนดใช้เลขประจำตัว 13 หลักในทะเบียนบ้านหรือบัตรประชาชนมาตั้งแต่ วันที่ 1 ม.ค. 2527 และจัดระบบจนถึงวันที่ 31 พ.ค. 2547

         ความหมายของเลขบัตรประจำตัวประชาชนข้อมูลจากสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง ระบุว่า เลขประจำตัวประชาชนของคนไทยมี 13 หลักเท่ากันทุกคนไม่ซ้ำกัน และไม่มีการเปลี่ยนหรือยกให้ใคร ระบบตัวเลขนี้รองรับจำนวนประชากรได้อีกมากในระดับ 100 ปี

        หลักที่ 1 หมายถึง บุคคลซึ่งมีอยู่ 8 ประเภท ได้แก่
        "ประเภทที่ 1" คนที่เกิดและมีสัญชาติไทยและได้แจ้งเกิดภายในกำหนดเวลา 15 วันตามกฎหมาย โดยเกิดตั้งแต่ 1 ม.ค.2527 เป็นต้นไป เด็กคนนั้นถือเป็นบุคคลประเภท 1 มีเลขประจำตัวขึ้นด้วยเลข 1
        "ประเภทที่ 2" คนที่เกิดและมีสัญชาติไทยได้แจ้งเกิดเกินกำหนดเวลา เมื่อไปแจ้งภายหลังเด็กคนนั้นจะเป็นบุคคลประเภท 2 มีตัวเลขขึ้นด้วยเลข 2
        "ประเภทที่ 3" คนไทยและคนต่างด้าวที่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวและมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในสมัยเริ่มแรก (คือตั้งแต่ก่อน 31 พ.ค.2527)
        "ประเภทที่ 4" คนไทยและคนต่างด้าวที่มีใบสำคัญคนต่างด้าว แต่แจ้งย้ายเข้าโดยยังไม่มีเลขประจำตัวประชาชนในสมัยเริ่มแรก
        "ประเภทที่ 5" คนไทยที่ได้รับอนุมัติให้เพิ่มชื่อเข้าไปในทะเบียนบ้านในกรณีตกสำรวจหรือกรณีอื่นๆ
        "ประเภทที่ 6" ผู้ที่เข้าเมืองโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และผู้ที่เข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมายแต่อยู่ในลักษณะชั่วคราว เช่น ชนกลุ่มน้อยตามชายแดนหรือชาวเขา กลุ่มนี้ถือว่าเป็นผู้เข้าเมืองโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ส่วนบุคคลที่เข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมายแต่อยู่ชั่วคราว เช่น นักท่องเที่ยวหรือชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย แม้บางคนจะถือพาสปอร์ตประเทศของตน แต่อาจจะมีสามีหรือภริยาคนไทยจึงไปขอทำทะเบียนประวัติ เพื่อให้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านสามีหรือภริยา คนทั้งสองแบบที่ว่านี้ถือว่าเป็นบุคคลประเภท 6
        "ประเภทที่ 7" บุตรของบุคคลประเภทที่ 6 ซึ่งเกิดในประเทศไทย คนกลุ่มนี้ในทะเบียนประวัติจะมีเลขประจำตัวขึ้นต้นด้วยเลข 7
        "ประเภทที่ 8" คนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยถูกต้องตามกฎหมาย คือผู้ที่ได้รับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวหรือคนที่ได้รับการแปลงสัญชาติเป็นสัญชาติไทย และคนที่ได้รับการให้สัญชาติไทยตั้งแต่หลัง 31 พ.ค.2527 เป็นต้นไป

        ปัจจุบันคนทั้งแปดประเภทนี้จะมีเพียงประเภทที่ 3, 4 และ 5 เท่านั้นที่จะมีบัตรประจำตัวประชาชนได้เลย ส่วนประเภทที่ 1 และ 2 จะมีบัตรประจำตัวประชาชนได้ก็ต่อเมื่อมีอายุถึงเกณฑ์ทำบัตรประจำตัวประชาชน คืออายุ 15 ปี
        แต่สำหรับบุคคลประเภทที่ 6, 7 และ 8 จะมีเพียงทะเบียนประวัติเล่มสีเหลืองเท่านั้น จะไม่มีการออกบัตรประจำตัวประชาชนให้

        หลักที่ 2 ถึงหลักที่ 5 หมายถึง รหัสของสำนักทะเบียนหรืออำเภอที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนขณะที่ให้เลข กล่าวคือ
        เลขหลักที่ 2 และ 3 จะหมายถึงจังหวัดที่อยู่
        ส่วนหลักที่ 4 และ 5 หมายถึงเขตหรืออำเภอในจังหวัดนั้นๆ

        หลักที่ 6 ถึงหลักที่ 10 หมายถึง กลุ่มของบุคคลแต่ละประเภทตามหลักแรก ซึ่งทางสำนักทะเบียนในแต่ละแห่งก็จะจัดกลุ่มเรียงไปตามลำดับหรือหากเป็นเด็กเกิดใหม่ในปัจจุบันเลขดังกล่าวก็จะหมายถึงเล่มที่ของสูติบัตร (ใบแจ้งเกิดที่อำเภอหรือเขตออกให้) ซึ่งก็คือเลขประจำตัวในทะเบียนบ้านของเด็กที่แต่ละอำเภอหรือเขตออกให้ และจะปรากฏในบัตรประชาชนเมื่อถึงอายุต้องทำบัตรนั่นเองแต่ถ้ายังไม่ถึงเกณฑ์เลขนี้ก็จะปรากฏอยู่แค่ในทะเบียนบ้านของเด็กเท่านั้น

        หลักที่ 11 ถึงหลักที่ 12 หมายถึง ลำดับที่ของบุคคลในแต่ละกลุ่มประเภท หรือหมายถึงใบที่ของสูติบัตร

         หลักที่ 13 เป็นตัวเลขตรวจสอบความถูกต้องของเลขทั้ง 12 หลักแรก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น